To have and to hold from this day forward, for better, for worse, for richer, for poorer, in sickness and in health, to love and to cherish, till death do us part.

1. บทนำ     

    หลักเกณฑ์การสมพงศ์ดวงชะตาที่กล่าวถึงในบทความชุดนี้ก่อนหน้านี้ทั้งหมด เป็นการสมพงศ์ดวงชะตาโดยใช้หลักการพื้นฐานในการเปรียบเทียบสมพงศ์ด้วยการนำดวงชะตาของทั้งสองคนมาซ้อนกัน แล้วพิจารณาตำแหน่งสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางโหราศาสตร์ในดวงชะตาทั้งสอง ซึ่งเป็นวิธีการพื้นฐานที่ใช้กันมาแต่โบราณในโหราศาสตร์ทุกระบบ  ผลจากการพิจารณาโครงสร้างการสมพงศ์ดวงชะตาจากวิธีนี้ใช้ได้ในความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ  ไม่เพียงเฉพาะในเรื่องของการแต่งงาน ความรักและเพศสัมพันธ์เท่านั้น  ต่างกันเพียงการทิ้งน้ำหนักความสัมพันธ์  เช่นระหว่างเพื่อน  ระหว่างพ่อแม่กับลูก หัวหน้ากับลูกน้อง ฯลฯ โดยในการพิจารณาสมพงศ์ระหว่างหญิงกับชายในความสัมพันธ์เรื่องความรัก การแต่งงาน และเพศสัมพันธ์ จะทิ้งนำหนักในเรื่องของดาวที่เกี่ยวข้องกับความรัก ความผูกพัน เป็นสำคัญ

    ในคำสอนของอาจารย์ประยูร พลอารีย์  มีหลักเกณฑ์อยู่ชุดหนึ่งที่ท่านใช้สำหรับดูสมพงศ์เฉพาะในกรณีที่ หญิงชายทั้งสองได้แต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยากันแล้วเท่านั้น  ถ้าไม่ได้แต่งงานกันจะนำมาใช้ในการพยากรณ์ไม่ได้  เมื่อพิจารณาในทางทฤษฎีผู้เขียนเห็นว่าหลักเกณฑ์นี้มีเหตุผลทางโหราศาสตร์สนับสนุนหนักแน่น  และเมื่อนำมาทดลองใช้ดูก็พบว่าแม่นยำเฉียบขาดอีกด้วย  โดยมีปัญหาอยู่ตรงที่ความยากในการคำนวณค่าองศาต่างๆเพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ เนื่องจากหลายโครงสร้างเป็นการคำนวณศูนย์รังสีของปัจจัยข้ามดวงกัน  ตัวอย่างเช่น  ต้องหาศูนย์รังสีของ  อาทิตย์ สามี / จันทร์ ภรรยา,  จันทร์ ภรรยา / พฤหัส สามี  และ อาทิตย์ สามี/ ฮาเดส ภรรยา  ฯลฯ เป็นต้น     ดังนั้นเกือบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปรียบเทียบสมพงศ์ดวงชะตา หญิงชายด้วยวิธีนี้ให้ครบถ้วนในทางปฏิบัติ  ถ้าหากไม่มีซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม   เวลาส่วนใหญ่ในการเขียนบทความตอนนี้จึงได้ใช้ไปกับการคำนวณวิเคราะห์ดวงชะตาตัวอย่าง

2. ทฤษฎี คัดลอกจากตำรา “คำสอนทางไกล” ของอาจารย์ประยูร พลอารีย์   เนื้อหาดังนี้

“การดูสมพงศ์ สามี ภรรยา  ว่าจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และโชคลาภหรือไม่เพียงใด ให้พิจารณาจาก อาทิตย์กับจันทร์ ผสมกันระหว่างดวงชะตาสามีและดวงชะตาภรรยาดังเช่น
    อาทิตย์ (สามี) / จันทร์ (ภรรยา)
    อาทิตย์ (ภรรยา) / จันทร์ (สามี)
โดยประกอบกันไปกับดาวพระเคราะห์โดยเฉพาะคือ พฤหัส กับ เสาร์ ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็ได้ดังเช่น
    อาทิตย์ (สามี) / จันทร์ (ภรรยา)   =  พฤหัส (สามี หรือ ภรรยา)
หรือ    อาทิตย์ (สามี) /  พฤหัส (ภรรยา)  =  จันทร์ (สามี หรือ ภรรยา)
หรือ    จันทร์ (สามี) / พฤหัส (ภรรยา)  =  อาทิตย์ (สามี หรือ ภรรยา)
            ฯลฯ
คู่สมรสดังกล่าวย่อมอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และมีโชคลาภ  แต่ถ้าเป็นเสาร์ เนปจูน ฮาเดส ผลจะตรงกันข้าม (ตามความหมายของดาวพระเคราะห์นั้นๆ)”

    เมื่อพิจารณาหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น  ผู้เขียนเห็นว่ามีเหตุผลทางโหราศาสตร์หนักแน่น  เพราะปัจจัยที่แสดงถึงการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างสามี/ภรรยา  ในทางโหราศาสตร์ก็คือ  อาทิตย์กับจันทร์ของดวงชะตาทั้งสอง  เมื่อนำมาผสมรวมกันเข้ากับปัจจัยดีร้าย ของแต่ละฝ่าย ผลจากปัจจัยที่เข้ามาร่วมอิทธิพลจึงเป็นผลที่เกิดขึ้นในชีวิตสมรสด้วย ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยของฝ่ายใดก็ตาม  แม้ในกรณีที่เป็น อาทิตย์/จันทร์ ของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเพียงฝ่ายเดียว  แต่ปัจจัยที่เข้ามาร่วมด้วยเป็นของอีกฝ่ายหนึ่งก็ยังคงเป็นผลที่เกิดขึ้นในชีวิตสมรสเช่นเดียวกัน

    จากเหตุผลข้างต้นประกอบกับหลักเกณฑ์ตามคำสอนของอาจารย์ประยูร พลอารีย์  จะสามารถกำหนดโครงสร้างที่ใช้ประกอบในการพิจารณาตามหลักเกณฑ์นี้สำหรับแต่ละปัจจัย (พฤหัส ศุกร์  เสาร์  เนปจูน ฮาเดส)  ดังนี้   (ยกตัวอย่างกรณี พฤหัส เป็น ปัจจัยที่ใช้พิจารณา)

	1.	อาทิตย์ (สามี) / จันทร์ (ภรรยา)	=	พฤหัส (สามี หรือ ภรรยา)
	2.	อาทิตย์ (สามี) / จันทร์ (สามี)	=	พฤหัส (ภรรยา)
	3.	จันทร์ (สามี) / อาทิตย์ (ภรรยา)	=	พฤหัส (สามี หรือ ภรรยา)
	4.	จันทร์ (ภรรยา) / อาทิตย์ (ภรรยา)	=	พฤหัส (สามี)
	5.	อาทิตย์ (สามี) / พฤหัส (ภรรยา)	=	จันทร์ (สามี  หรือ ภรรยา)
	6.	อาทิตย์ (สามี) / พฤหัส (สามี)	=	จันทร์ (ภรรยา)
	7.	อาทิตย์ (ภรรยา) / พฤหัส (ภรรยา)	=	จันทร์ (สามี)
	8.	อาทิตย์ (ภรรยา) / พฤหัส (สามี)	=	จันทร์ (สามี หรือ ภรรยา)
	9.	จันทร์ (สามี) / พฤหัส (ภรรยา)	=	อาทิตย์ (สามี หรือ ภรรยา)
	10.	จันทร์ (สามี) / พฤหัส (สามี)	=	อาทิตย์ (ภรรยา)
	11.	จันทร์ (ภรรยา) / พฤหัส (สามี)	=	อาทิตย์ (สามี หรือ ภรรยา)
	12.	จันทร์ (ภรรยา) / พฤหัส (ภรรยา)	=	อาทิตย์ (สามี)

 

3. รูปแบบตารางที่ใช้ประกอบในการเปรียบเทียบ

 

 

     จากชุดโครงสร้างที่ใช้ในการเปรียบเทียบตามข้อ 2 สามารถกำหนดตารางในการเปรียบเทียบ โดยพิจารณาปัจจัยตามคำสอนของอาจารย์ประยูรทั้ง 5 ปัจจัย  คือ พฤหัส  ศุกร์  เสาร์ เน็ปจูน ฮาเดส  ซึ่งโดยหลักพื้นฐานทางโหราศาสตร์ จะพิจารณาเรื่อง สุข (พฤหัส)  และ ทุกข์ (เสาร์) เป็นสำคัญ (หากไม่มีเวลาพิจารณาเรื่องอื่น)  โดยตารางที่ 1 ที่มี 12    โครงสร้างจะครอบคลุมเรื่องของดาวพฤหัส ครบทุกโครงสร้า ง และครอบคลุมปัจจัยอื่นๆบางโครงสร้าง  ซึ่งต้องเสริมด้วยตารางที่ 2 สำหรับดาวศุกร์  ตารางที่ 3 สำหรับดาวเสาร์  ตารางที่ 4 สำหรับดาวเน็ปจูน  และตารางที่ 5 สำหรับดาวฮาเดส

	1.	Sun M / Moon F	Jupiter  M/F
	2.	Sun M / Moon M	Jupiter F
	3.	Moon M / Sun F	Jupiter M/F
	4.	Moon F/ Sun F	Jupiter M
	5.	Sun M / Jupiter F	Moon M/F
	6.	Sun M/ Jupiter M	Moon F
	7.	Sun F/ Jupiter F	Moon M
	8.	Sun F / Jupiter M	Moon M/F
	9.	Moon M /Jupiter F	Sun M/F
	10.	Moon M / Jupiter M	Sun F
	11.	Moon F / Jupiter M	Sun M/F
	12.	Moon F/ Jupiter F	Sun M

 

	1.	Sun M /Venus F	Moon M/F
	2.	Sun M/ Venus M	Moon F
	3.	Sun F/ VenusF	Moon M
	4.	Sun F /Venus M	Moon M/F
	5.	Moon M /Venus F	Sun M/F
	6.	Moon M / Venus M	Sun F
	7.	Moon F / Venus M	Sun M/F
	8.	Moon F/Venus F	Sun M

 

	1.	Sun M / Saturn F	Moon M/F
	2.	Sun M/  Saturn M	Moon F
	3.	Sun F/ Saturn F	Moon M
	4.	Sun F /  Saturn M	Moon M/F
	5.	Moon M / Saturn F	Sun M/F
	6.	Moon M /  Saturn M	Sun F
	7.	Moon F / Saturn M	Sun M/F
	8.	Moon F/  Saturn F	Sun M

 

	1.	Sun M /Neptune F	Moon M/F
	2.	Sun M/ Neptune M	Moon F
	3.	Sun F/ Neptune F	Moon M
	4.	Sun F /Neptune M	Moon M/F
	5.	Moon M /Neptune F	Sun M/F
	6.	Moon M / Neptune M	Sun F
	7.	Moon F / Neptune M	Sun M/F
	8.	Moon F/ Neptune F	Sun M

 

	1.	Sun M / Hades F	Moon M/F
	2.	Sun M/Hades M	Moon F
	3.	Sun F/ Hades F	Moon M
	4.	Sun F / Hades M	Moon M/F
	5.	Moon M /Hades F	Sun M/F
	6.	Moon M / Hades M	Sun F
	7.	Moon F / Hades M	Sun M/F
	8.	Moon F/ Hades F	Sun M

 

4. ดวงชะตาตัวอย่าง

    เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของดวงชะตาจึงไม่สามารถให้ข้อมูลวันเดือนปีเกิดได้  และสามารถนำเสนอได้เพียงผลของการเปรียบเทียบสมพงศ์ตามหลักเกณฑ์ในบทความนี้เท่านั้น   ซึ่งถ้าดูด้วยหลักการดวงซ้อนดวงจะพบว่า สมพงศ์กันเต็มที่  ตามหลักโหราศาสตร์สากล โดยมีโครงสร้างชั้นยอดถึง 4 โครงสร้างคือ 
 

 

            หนึ่ง    อาทิตย์ (ชาย) ถึง (ระยะวังกะภายใน 1 องศา) อาทิตย์ อังคาร  และศุกร์ ของฝ่ายหญิง  ตามหลักการของอาจารย์ประยูรฯ  จุดเจ้าชะตา อาทิตย์ ซึ่งเป็นจุดเจ้าชะตาใหญ่ ถึงศุกร์ของฝ่ายหญิง  กระตุ้นให้ดาวศุกร์ฝ่ายหญิงทำงานและเกิดความรักขึ้น  เนื่องจากฝ่ายหญิงเอง  โครงสร้าง อาทิตย์ = อังคาร = ศุกร์ เหมือนภูเขาไฟระอุพร้อมจะระเบิดอยู่แล้ว  พออาทิตย์ฝ่ายชายให้แสงถึงแกนนี้เข้า  ภูเขาไฟก็ระเบิดออกมา  ขณะเดียวกัน ดาวศุกร์เพ็ญแบบอสุรสนธยา  (ศุกร์ทำมุม 45 องศา กับอาทิตย์)  ซึ่งแม้โหราศาสตร์ตะวันออกจะยืนยันว่ามีอิทธิพลรุนแรง และให้เสน่หานุภาพมากกว่าศุกร์เพ็ญแบบเทวะสนธยาอย่างเทียบกันไม่ได้นั้น  อาจารย์ประยูรฯย้ำเสมอว่าศุกร์เพ็ญแบบนี้ทำให้เจ้าชะตาดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้การครอบงำของความรัก และกามารมณ์  ในขณะที่ศุกร์เพ็ญแบบเทวะสนธยานั้น เจ้าชะตาจะดำเนินชีวิตโดยไม่อยู่ภายใต้การครอบงำของความรักและกามารมณ์  ทั้งๆที่ฝ่ายหญิงเหนือกว่าฝ่ายชายในทุกๆด้าน  ไม่ว่าจะเป็นความงดงามทางกาย  (ฝ่ายชายอาจพิจารณาว่าเป็นคนขี้เหร่ ไม่มีราศีหรือ ความสง่างามใดๆที่น่าภาคภูมิใจเลย) การศึกษา หน้าที่การงาน ฯลฯ  แต่ก็ลงเอยด้วยการอยู่กินเป็นสามีภรรยากับฝ่ายชายในที่สุด

            สอง    คู่นี้จุดเจ้าชะตาของแต่ละฝ่ายต่างก็กระตุ้นศุกร์ของอีกฝ่ายด้วยกันทั้งคู่  โดย จันทร์ ราหู ของฝ่ายหญิงก็ให้แสงถึง ศุกร์ฝ่ายชายด้วยเช่นกัน  (ครบวงจร)

            สาม    พลูโต ชาย  เล็ง ศุกร์ หญิง  ระยะวังกะภายใน 1 องศา  (ถึงอาทิตย์ ถึง อังคาร ด้วย ตามโครงสร้างเดิมของฝ่ายหญิง) เหมือนในข้อ 1 โหราศาสตร์ยุคใหม่มีความเห็นว่าโครงสร้าง พลูโต/ศุกร์ เป็นสัญญาณชี้บอกคู่แท้ อันดับต้นๆ  และปลุกเร้ากามารมณ์ได้ไม่น้อยกว่าคู่ อังคาร/ศุกร์

            สี่    จันทร์ชาย  กุมจันทร์หญิง  ในราศีเดียวกัน  ระยะวังกะประมาณ 2 องศากว่าๆ  และขนานกัน (ตำแหน่งสัมพันธ์ขนาน -  Parallel) ระยะวังกะ 26 ลิปดา โครงสร้างนี้เป็นโครงสร้างชั้นยอดที่ทุกตำราทุกสำนักมีความเห็นตรงกันว่า ดีมาก  มีผลทำให้อารมณ์ของทั้งสองคนมีความกลมกลืน สอดคล้องต้องกัน เป็นรากฐานที่มั่นคงในการครองชีวิตคู่

            พบ จันทร์ ชาย  ทำมุม 90 องศา กับ สะท้อน พฤหัส หญิง  ระยะวังกะ 1 องศา 13 ลิปดา  แม้ระยะวังกะจะเกิน 1 องศา  แต่ด้วยมุม 90 องศา ถือว่าช่วยกระตุ้นให้พฤหัสในดวงชะตาหญิงทำงานได้ในระดับหนึ่ง  ในขณะที่ อาทิตย์หญิงตรีโกณในราศีกับพฤหัสชาย ระยะวังกะ3  องศา แต่ contra parallel (ตำแหน่งสัมพันธ์ขนาน) กับพฤหัสด้วยระยะวังกะ  เพียง 7 ลิปดา เท่านั้น  ถือว่ากระตุ้นพฤหัส ชาย ได้แรงระดับหนึ่งทีเดียว  จึงสามารถสรุปได้ว่า ฝ่ายชายนำโชคมาให้ฝ่ายหญิงได้บ้าง  ในขณะที่ฝ่ายหญิงนำโชคมาให้ฝ่ายชายได้ดี  และไม่พบว่ามีฝ่ายใดกระตุ้นดาวเสาร์ของอีกฝ่ายหนึ่ง ต่างฝ่ายจึงไม่ได้นำโชคร้ายและความทุกข์มาให้อีกฝ่ายหนึ่ง

            ดังนั้นจากวิธีการดวงซ้อนดวง   หญิงชายคู่นี้เป็นคู่ที่สมพงศ์กันดี  ความรัก ความผูกพัน  ทั้งทางกาย  ใจ และกามารมณ์  เพศสัมพันธ์ดี  นำโชคลาภความสำเร็จ (ดาวพฤหัส) มาให้แต่ละฝ่ายพอสมควรโดยต่างฝ่ายต่างก็ไม่กระตุ้นเสาร์อีกฝ่ายหนึ่ง แสดงว่าไม่เกิดความทุกข์ ในความสัมพันธ์ระหว่างกัน (ความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ)  สรุปว่า ชีวิตคู่น่าจะไปได้ตลอดรอดฝั่ง

            อย่างไรก็ตามเมื่อใช้หลักเกณฑ์ตามคำสอนของอาจารย์ประยูรฯ ในบทความนี้ มาวิเคราะห์ดูว่า ถ้าหญิงชายคู่นี้ใช้ชีวิตอยู่กินเป็นสามีภรรยากันตามความหมายของ อาทิตย์/จันทร์ แล้ว ผลการครองชีวิตคู่ร่วมกันจะเป็นอย่างไร  ได้ผลการวิเคราะห์ดังนี้
  

	1.	Sun M / Moon F	Jupiter  M/F	nil
	2.	Sun M / Moon M	Jupiter F	0 deg  orb 1 deg 11 min
	3.	Moon M / Sun F	Jupiter M/F	minus Saturn M  45 deg  orb 4 min
	4.	Moon F/ Sun F	Jupiter M	minus Saturn M  45 deg  orb 1 deg 41 min
	5.	Sun M / Jupiter F	Moon M/F	nil
	6.	Sun M/ Jupiter M	Moon F	nil
	7.	Sun F/ Jupiter F	Moon M	nil
	8.	Sun F / Jupiter M	Moon M/F	nil
	9.	Moon M /Jupiter F	Sun M/F	nil
	10.	Moon M / Jupiter M	Sun F	nil
	11.	Moon F / Jupiter M	Sun M/F	nil
	12.	Moon F/ Jupiter F	Sun M	nil

  

	1.	Sun M / Saturn F	Moon M/F	nil
	2.	Sun M/  Saturn M	Moon F	nil
	3.	Sun F/ Saturn F	Moon M	nil
	4.	Sun F /  Saturn M	Moon M/F	nil
	5.	Moon M / Saturn F	Sun M/F	Sun M  0  deg  orb  12 min
	6.	Moon M /  Saturn M	Sun F	Sun F   0  deg  orb  40 min
	7.	Moon F / Saturn M	Sun M/F	Sun F  90  deg  orb 40 min
	8.	Moon F/  Saturn F	Sun M	Sun M 90  deg  orb 1 deg 10 min

 

            จะเห็นได้ว่า  หญิงชายคู่นี้เมื่ออยู่กินเป็นสามีภรรยากันแล้ว  ตามคำสอนของอาจารย์ประยูรฯ พบโครงสร้างเสาร์ถึง  7  โครงสร้าง  มุมแรงๆ  ระยะวังกะน้อย ๆ  ประมาณ 3 – 4 โครงสร้าง  ในขณะที่ไม่มีโครงสร้างของดาวพฤหัสเลย  หมายความว่าในชีวิตสมรสไม่มี ความสุข และโชคลาภ ใดๆ  มีแต่ความทุกข์ ความผิดหวัง และขมขื่น  เต็มไปหมด

 

 

            จะเห็นได้ว่า ถ้าไม่นำหลักเกณฑ์ของอาจารย์ประยูรฯ เข้ามาพิจารณาด้วย  การพิจารณาจากหลักเกณฑ์พื้นฐานด้วยวิธีดวงซ้อนดวง เพียงประการเดียว  สรุปได้ว่า หญิงชายคู่นี้เป็นคู่ที่สมพงศ์กันดี  ความรัก ความผูกพัน  ทั้งทางกาย  ใจ และกามารมณ์  เพศสัมพันธ์ดี  โดยต่างฝ่ายต่างก็ไม่กระตุ้นเสาร์อีกฝ่ายหนึ่ง แสดงว่าไม่เกิดความทุกข์ ในความสัมพันธ์ใดๆระหว่างกัน (ความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ)  และพอจะนำโชคลาภมาให้อีกฝ่ายหนึ่งได้ในระดับหนึ่ง

            แต่เมื่อพิจารณาจากหลักเกณฑ์ในบทความนี้  กลับพบว่าชีวิตสมรส ไม่มีโชคลาภเกิดขึ้นเลยถึงแม้ว่าความสอดคล้องต้องกันในเรื่อง ความรัก เพศสัมพันธ์และอุปนิสัย จะยังคงเดิม แต่ปัญหาภาวะเศรษฐกิจก็นำมาซึ่งการตัดสินใจเลิกราของฝ่ายหญิงในที่สุด

            เรื่องจริงที่เกิดขึ้นก็คือ ท่ามกลางการคัดค้านของคนรอบข้างว่า ผู้หญิงสวย  การศึกษาดี หน้าที่การงานดี     จะหาผู้ชายที่ดีกว่านี้มารักไม่ยากเลย  ทำไมไปเลือกผู้ชายคนนี้  ฝ่ายหญิงก็ยังคงตกลงใจลาออกจากงาน ไปใช้ชีวิตคู่กับฝ่ายชาย ช่วยกันทำธุรกิจส่วนตัวด้วยกัน  แต่ธุรกิจไปไม่รอด ขาดทุนจนต้องเลิกกิจการลงในที่สุด  ในขณะที่ฝ่ายชายไม่มีศักยภาพจะทำอะไรให้เจริญรุ่งเรืองได้อีก  ความทุกข์ ยาก ความลำบาก (เสาร์) ที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งสองทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยมาก แทบจะเป็นประจำ  จนในที่สุด แม้จะมีโครงสร้างการสมพงศ์ดวงชะตาชั้นยอด (กรรมเก่า) จากดวงซ้อนดวง ถึง 4 โครงสร้าง  แต่ก็มีโครงสร้างร้ายสุดๆ  จากหลักเกณฑ์ในบทความตอนนี้ (กรรมเก่าเช่นเดียวกัน) ถึง 7 โครงสร้าง  กรรมใหม่ที่เกิดขึ้นก็คือฝ่ายหญิงขอเลิกความสัมพันธ์ และไปแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่     ซึ่งผู้ชายคนใหม่ก็สามารถเลี้ยงดู ให้ความสุขฝ่ายหญิงได้ตามสมควร  ผู้เขียนเคยลองเปรียบสมพงศ์ดวงชะตาดูให้ก่อนการแต่งงาน (ดูคร่าวๆ ไม่ได้ดูครบทุกโครงสร้าง)  ในดวงซ้อนดวง พบ อาทิตย์ ชาย ตั้งฉาก พฤหัส หญิง ระยะวังกะภายใน 1 องศา  และเมื่อทดลองเปรียบเทียบด้วยหลักเกณฑ์ในบทความนี้ เมื่อคำนวณไปเพียงสองสามโครงสร้าง ก็พบโครงสร้างของดาวพฤหัสแล้ว สรุปว่าจากดวงซ้อนดวง  ในความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ ฝ่ายชายจะนำโชคลาภความสำเร็จมาให้ฝ่ายหญิง  และจากหลักเกณฑ์ในบทความนี้ การพบโครงสร้างของดาวพฤหัสชี้ว่าถ้าได้แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันแล้วจะมีโชคลาภความสำเร็จเกิดขึ้นในชีวิตสมรสด้วย

5.    ข้อพิจารณา

    1. ถ้าถามว่า ผลจาก “ดวงซ้อนดวง”  กับ “ผลจากการพิจารณาโครงสร้าง ตามบทความนี้ จะนำมาพิจารณาร่วมกันอย่างไร  จะหักล้างกันหรือไม่  ผู้เขียนมีความเห็นว่า ไม่หักล้างกัน แต่จะเกิดร่วมกันทั้งความทุกข์ (เสาร์) และความสุข (พฤหัส)  ผลจากโครงสร้างดวงซ้อนดวงให้ผลเสมอในความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ แต่ผลจากโครงสร้างในบทความนี้จะเกิดต่อเมื่อหญิงชายคู่นี้ได้ใช้ชีวิตอยู่กินเป็นสามีภรรยากันแล้วเท่านั้น (มีเพศสัมพันธ์กันแล้ว ไม่ว่าจะแต่งงานหรือไม่แต่งงานก็ตาม)  ผู้เขียนเคยลองตรวจดูคร่าวๆหญิงชายอีกคู่หนึ่ง พบว่าในดวงซ้อนดวง ต่างฝ่ายต่างกระตุ้นเสาร์ของอีกฝ่ายหนึ่งอย่างรุนแรงหลายโครงสร้าง  แต่ในโครงสร้าง “อาทิตย์/จันทร์” พบทั้งโครงสร้าง เสาร์ และ พฤหัส หลายโครงสร้าง  คู่นี้ทะเลาะเบาะแว้งหนักหนาสาหัสเช่นกัน  แต่อยู่กินกันมาก็ประสบความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตสมรสในขั้นดีระดับหนึ่ง  สามารถสร้างฐานะได้เป็นปึกแผ่น มีครอบครัวในภาพรวมจากสายตาคนภายนอกที่สมบูรณ์และอบอุ่น  แสดงว่าผลจากโครงสร้างทั้งสองประเภททำงานด้วยกันทั้งคู่

    2. การนำ อาทิตย์ จันทร์ และปัจจัยของแต่ละฝ่ายมาพิจารณาร่วมกันนี้ มีเหตุผลหนักแน่นทางโหราศาสตร์ เพราะ  อาทิตย์/จันทร์ หมายถึงการใช้ชีวิตร่วมกันของหญิงและชายในฐานะสามีภรรยา ในขณะที่อังคาร/ศุกร์ แม้จะเป็นสุดยอดโครงสร้างในการสมพงศ์ดวงชะตาด้วยวิธีดวงซ้อนดวง  แต่ก็หมายถึง สัญชาติญาณทางเพศ และการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น  จึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตสมรส และไม่สามารถนำมาเป็นฐานในการอ่านผลจากการใช้ชีวิตร่วมกันในชีวิตสมรสได้

    3. ผู้เขียนเห็นว่า เสาร์ และบาปเคราะห์อื่นๆที่พบในการสมพงศ์ดวงชะตาด้วยหลักเกณฑ์ในบทความนี้ไม่น่ากลัว  เพียงขอให้มีโครงสร้างที่แรงๆของดาวพฤหัสอย่างน้อย 1 โครงสร้างก็ยังดี  เพราะไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใด ก็ยังจะมีความสุข สมปรารถนา และโชคลาภ เกิดขึ้นในชีวิตสมรส

    4. ปัญหาใหญ่ของการสมพงศ์ดวงชะตาด้วยด้วยหลักเกณฑ์ที่เสนอในบทความนี้ก็คือความยากในการคำนวณ และต้องใช้เวลามาก  Software ที่คำนวณ ศูนย์รังสี ข้ามดวงได้ ที่ผู้เขียนพบก็มีเพียง Alogic 280 E ของเยอรมันเท่านั้น และก็ได้นำมาใช้ในการคำนวณดวงชะตาตัวอย่างในบทความนี้  แต่ก็ยังใช้ยาก  และใช้เวลามากอยู่ดี

    5. จากที่ผู้เขียนเคยทดลองใช้หลักเกณฑ์ในบทความนี้เปรียบเทียบดวงชะตาคู่สามีภรรยาที่น่าสนใจอีกหลายคู่ (อย่างคร่าวๆ)  พบว่าหลักเกณฑ์นี้แม่นยำเฉียบขาด

    6. การพิจารณาสมพงศ์ดวงชะตาด้วยวิธีดวงซ้อนดวงอย่างเดียว ไม่สามารถฟันธงได้เช่นกรณีคู่ตัวอย่างที่นำมาให้ดูนี้ การกระตุ้นพฤหัสโดยจุดเจ้าชะตาของแต่ละฝ่ายไม่แรงเท่าที่ควร เพราะถ้าจุดเจ้าชะตาของแต่ละฝ่ายถึงพฤหัสแรงพอ ย่อมต้องแสดงผลเรื่องโชคลาภความสำเร็จอย่างแน่นอน  แม้ว่าตามหลักเกณฑ์ในบทความนี้จะเกิดโครงสร้างของเสาร์ถึง 7 โครงสร้าง และไม่มีโครงสร้างของดาวพฤหัสเลยก็ตาม  ดังนั้นถ้าไปเจอกรณีสุดโต่งอย่างเช่นคู่ตัวอย่างในบทความนี้  อาจทำให้ผลการพยากรณ์พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ได้  และอาจสรุปได้ว่าหลักเกณฑ์ตามคำสอนของอาจารย์ประยูร  พลอารีย์  ตามที่กล่าวถึงในบทความนี้สามารถนำมาใช้ตรวจสอบ กลั่นกรอง และยืนยัน ผลที่ได้จาก ดวงซ้อนดวง  ได้เป็นอย่างดี
 

 

6.    สรุป

    แม้ว่าจะคำนวณยากและต้องใช้เวลามากในการวิเคราะห์  แต่โครงสร้างตามคำสอนของท่านอาจารย์พลตรีประยูร พลอารีย์ ที่นำเสนอในบทความนี้ จากประสบการณ์ผู้เขียนพบว่าแม่นยำเฉียบขาด  และน่าจะเป็นเครื่องมือชั้นยอดที่สุดเท่าที่มีอยู่ในวงการโหราศาสตร์ขณะนี้  ที่จะใช้สำหรับกลั่นกรองและยืนยันผลที่ได้จากการเปรียบเทียบสมพงศ์ดวงชะตาด้วยวิธีดวงซ้อนดวง อันเป็นวิธีการเก่าแก่ที่ใช้กันมานับพันๆปีตั้งแต่ยุคโบราณ

ชาญชัย เดชะเสฏฐดี

วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม  2557

----------

ขอขอบ คุณ ท่านผู้เขียนบทความที่ให้ความกรุณาแก่เว็บไซต์แห่งนี้  อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างทางความคิดย่อมมีได้ และผมขอจำกัดความรับผิดชอบในฐานะเจ้าของเว็บ เท่าที่กฎหมายและกติกาสังคมกำหนด ท่านที่ประสงค์จะร่วมเขียนบทความเช่นนี้ โปรดติดต่อ webmaster@rojn-info.com